วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ลูกได้สร้างความภาคภูมิใจให้พ่อและแม่อย่างมาก นอกเหนือไปจากสิ่งดีๆ อีกหลายอย่างที่ลูกได้ทำมา
การได้รับปริญญาบัตรของลูกไม่ว่าจะรับโดยวิธีใด ไม่ได้มีน้ำหนักความสำคัญแตกต่างกันต่อการก้าวไปในอนาคต การสำเร็จการศึกษาเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของการเดินต่อไปข้างหน้า
ก่อนจะถึงวันนี้ พ่อได้รับบัตรเชิญจากทางสถาบันของลูก ให้ไปร่วมเป็นเกียรติในพิธีการสำเร็จการศึกษาของลูก ตอนแรกพ่อคิดว่าจะไม่ไป เพราะเป็นเรื่องของสถาบัน อาจารย์ และเพื่อนๆของลูก แต่ถ้าพ่อไม่ไปในวันนั้น และได้รู้ในภายหลังว่าสถาบันของลูกได้ทำกิจกรรมอะไรบ้าง พ่อคงเสียใจมาก
กิจกรรมในวันนั้นสร้างความประทับใจให้พ่อเป็นอย่างมาก ในการสร้างบรรยากาศให้เกิดความซาบซึ้งระหว่างแขก สถาบัน อาจารย์ และนักเรียน ได้มองเห็นความสดชื่น รื่นรมย์ สมหวัง ของบุคคลที่เกี่ยวข้อง ถึงแม้จะเป็นความเศร้าสร้อย อาวรณ์ระหว่างเพื่อนปนอยู่บ้าง ที่จะต้องจากกันไปเพื่อสร้างอนาคตของตน
เพลงอะไรหนอที่บรรเลงระหว่างที่ลูกและเพื่อนๆ เดินเข้าไปในหอประชุมเพื่อทำพิธี ช่างมีความไพเราะ มีท่วงทำนองที่ให้ความมั่นคง หนักแน่น มีความศักดิ์สิทธิ์เหมาะกับบรรยากาศในงาน พ่อได้มารู้ภายหลังว่าเป็นเพลงลากาเมนเต้
พ่อภูมิใจในตัวลูกมาก เมื่อเห็นลูกเอาช่อดอกไม้ที่พ่อแม่มอบให้ นำไปมอบแก่อาจารย์ของลูก คงไม่ต้องให้พ่ออธิบายว่าทำไมพ่อถึงภูมิใจที่ลูกทำอย่างนั้น วันนั้นพ่อมีโอกาสได้ขอบคุณอาจารย์ของลูก ที่มีส่วนช่วยสร้างความสำเร็จให้ลูก ท่านได้ตอบพ่อสั้นๆ ว่า "ท่านพอใจกับการทำหน้าที่เป็นเรือจ้างของท่าน"
ลูกคงจำได้ว่าท่านอธิการบดีได้กล่าวตอนหนึ่งว่า "ขอให้นักศึกษาที่จบไปแล้วกลับมาเยี่ยมอาจารย์ มาเยี่ยมสถาบันบ้าง" พ่อติดใจในคำพูดประโยคนี้ เพราะพ่อเองเป็นคนที่ปฏิบัติเช่นนั้น กับครูและโรงเรียนเก่าของพ่อเสมอมาทุกปี ในวันที่ 16 มกราคม (วันครู) หรือถ้าไม่สามารถมาได้ในวันนั้น ก็จะเป็นวันที่ใกล้เคียงกัน พ่อจึงอยากให้ลูกทำเช่นพ่อ
ครู (พ่ออยากให้ใช้คำนี้มากกว่าอาจารย์) อยากจะเจอลูกศิษย์เพื่อจะได้รับรู้ว่า ลูกศิษย์ที่ท่านได้ทะนุถนอมอบรมสั่งสอนมา ในทางที่ดีงามทุกอย่างนั้นได้เจริญก้าวหน้าไปถึงไหน จริงอยู่ถึงแม้จะมีลูกศิษย์บางคนไม่สามารถเจริญรุ่งเรืองได้เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ทำให้เขาไม่อยากมาพบครูหรือมาร่วมสังสรรค์กับเพื่อนๆ แต่นั้นเป็นเพียงความรู้สึกฝ่ายเดียวของคนคนนั้น ครูก็ยังเป็นครูที่อยาดเจอลูกศิษย์ เพื่อนก็ยังเป็นเพื่อนที่อยากเจอเพื่อน ลูกจบการศึกษาจากสถาบันที่มีความพร้อม มีชื่อเสียงในการสร้างบัณฑิต ฉะนั้นจงภูมิใจและกลับไปเยี่ยมสถาบัน เยี่ยมครู และทำในสิ่งดีๆ ให้แก่สถาบัน
หากลูกคิดว่าเมื่อกลับไปเยี่ยมสถาบันแล้ว จะมีความรู้สึกด้อย สู้เพื่อนคนอื่นไม่ได้ พ่อขอแนะนำขอให้ลูกเริ่มมี "ความมุ่งมาดปรารถนาที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ" ในสิ่งที่ลูกควรทำหรือกำลังทำอยู่ในขณะนี้
ลูกยังจำได้ไหม วันที่พ่อพาลูกไปเป็นตัวช่วยในรายการโทรทัศน์เกมเศรษฐี พ่อพูดกับลูกว่า "นี่คงเป็นบทเรียนที่ดีแก่ลูกในเรื่องความเพียรอย่างหนึ่ง เพราะถ้าเป็นคนอื่นเขาคงไม่มาเล่นรายการนี้แล้ว ลูกรู้ไหมว่าพ่อเขียนจดหมายถึง 4 ฉบับเพื่อสมัครไปเล่นรายการนี้ แต่ละฉบับแตกต่างกันออกไปในรูปแบบของเนื้อหาเพราะเมื่อฉบับแรกเขาไม่เรียกตัวเรา แสดงว่าเรายังไม่ได้แสดงอะไรที่ตรงกับความต้องการของรายการ พ่อต้องเปลี่ยนเนื้อหาใหม่ในจดหมายฉบับต่อมาในที่สุดเมื่อเขียนจดหมายถึงฉบับที่ 4 ซึ่งใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ปี พ่อก็ประสบความสำเร็จ ได้เข่าไปเล่นเกมเศรษฐีตามที่ตั้งใจไว้
ลูกได้ผ่านชีวิตวัยเด็ก วัยของการศึกษาหาความรู้มาแล้ว ลูกกำลังจะเริ่มต้นชีวิตอีกวัยหนึ่งคือ วัยของการทำงาน วัยของการหาประสบการณ์ชีวิต วัยของการแสวงหาความสำเร็จ ลูกก็รู้ว่าไม่ใช่ทุกคนหลอกที่จะประสบความสำเร็จได้ แต่ถ้าลูกมี "ความมุ่งมาดปรารถนาที่จะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้สำเร็จ" ที่เหมาะสมกับวัยและความสามารถของลูกแล้ว ลูกจะไม่พบไม่เจอกับความล้มเหลวหรือคำว่า "ทำไม่ได้" เลย
และเมื่อลูกทำได้ ลูกก็คงอยากจะมาเยี่ยครู สถาบัน และพร้อมที่จะพบปะกับเพื่อนๆ ด้วยความภาคภูมิใจ
รักเสมอ
พ่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น